สาวเว็บพนัน แฉเจ้าอาวาสให้ยืม 40 ล้าน ตอนเรียน อึ้งมีคลิปอาบน้ำ
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีการจับกุม พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม หลังพบพฤติการณ์ยักยอกเงินวัดไปใช้ส่วนตัว รวมถึงมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ โดยเบื้องต้นพระธรรมวชิรานุวัตรถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน แต่กลับเบียดบังไปเป็นของตน” รวมถึงความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ ทั้งโดยมิชอบและโดยทุจริต ซึ่งในชั้นต้นพนักงานสอบสวนยังไม่อนุญาตให้ประกันตัว และผู้ต้องหายังไม่ให้การใด ๆ ขณะอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวน
การจับกุมผู้เกี่ยวข้องในเครือข่าย
ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ตำรวจกองปราบปรามได้จับกุม น.ส.อรัญญาวรรณ นายหน้ารับแทงพนันบาคาร่าในเครือข่ายเว็บพนันที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยเธอมีบทบาทสำคัญในการนำเงินออกจากบัญชีวัดเข้าสู่ระบบพนันออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนการกระทำผิดในคดีเดียวกัน น.ส.อรัญญาวรรณให้การว่าเธอรู้จักพระธรรมวชิรานุวัตรตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนวัดไร่ขิงในปี 2564 และเคยขอยืมเงินครั้งแรกจำนวน 40 ล้านบาท โดยมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่องผ่านวิดีโอคอลเพื่อขอคำปรึกษาในหลายเรื่อง
หลักฐานสำคัญในคดี
เจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา เช่น คลิปวิดีโอคอล คลิปพูดคุยเรื่องการทวงเงิน และคลิปขณะอาบน้ำ ซึ่งเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างพระธรรมวชิรานุวัตรและ น.ส.อรัญญาวรรณ นอกจากนี้ พระธรรมวชิรานุวัตรยังยอมรับว่าได้โอนเงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณหลายครั้ง รวมมูลค่ากว่า หลักร้อยล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนเพิ่มเติมว่าเงินดังกล่าวถูกโอนด้วยเหตุผลใด และมีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่
การดำเนินการเพิ่มเติม
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ระบุว่าตำรวจมีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลทางการเงินเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมเตรียมขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยยืนยันว่าการที่พระธรรมวชิรานุวัตรเข้ามอบตัวก่อนวันปฏิบัติการจับกุมนั้น ไม่ได้เกิดจากแผนการจับกุมรั่วไหล แต่เป็นการหลุดข้อมูลจากวงใน
สถานะปัจจุบันของพระธรรมวชิรานุวัตร
พระธรรมวชิรานุวัตรได้ลาสิกขาแล้ว และอยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตำรวจจะประสานงานกับมหาเถรสมาคมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของคณะสงฆ์ต่อไป
